สวัสดีครับวันนี้ เรา PKJ GROUP INNOVATION IT วันนี้ผมมีบทความดีๆเกี่ยวกับ GPU หรือ การ์ดจอมานำเสนอครับผม
และ วันนี้สิ่งที่ผมจะมาเสนอในบทความนี้จะเป็น การ์ดจอเล่นเกมจากค่าย NVIDIA ครับหรือที่เราเรียกกันติดปากเพื่อเรียกสั้นๆว่า ค่ายเขียวนั่นแหละครับ แน่นอนว่าผมจะมาอธิบายว่า ทำไม การ์ดจอเล่นเกม NVIDIA ถึงเป็นค่ายการ์ดจอเล่นเกมที่นิยม และ ทำไมคนถึงค้นหามาใช้และราคามันถึงสูง กับ ความแตกต่างของแต่ละ Series ย่อยๆ
ทุกวันนี้การพัฒนาของ Hardware ทุกวันนี้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดซึ่งแน่นอนว่ามันมีผลต่อการทำให้ภาพของเกมและจอที่เราใช้กันในปัจจุบันแน่นอน เพราะตอนนี้ การ์ดจอเล่นเกมสามารถทำงานเพื่อแสดงผล ของ Ray Tracing หรือ การแสดงผลของภาพให้สมจริงที่สุดซึ่งแน่นอนมันคือเทคโนโลยีที่ยกระดับความสมจริงของภาพที่เรากำลังเล่น ณ ขณะนั้นให้ มีอรรถรสของภาพมากยิ่งขึ้น และโดยเพราะ NVIDIA ก็สามารถไปถึงขั้นนั้นได้อย่างมีเสถียรภาพ เพราะใช้เวลาการพัฒนามาอย่างยาวนานจนออกมาเป็น เทคโนโลยี RTX หรือ Ray Tracing ในปัจจุบัน และยังภาพในการ์ดจอเล่นเกมทีประมวลผลนั้นมีขุมพลังของ RT Core และ Tensor Core ที่ช่วยให้เจ้า การ์ดจอเล่นเกม ค่าย NVIDIA ให้ดีขึ้นไปอีก
คำภาม :
: แล้วถ้าเป็นแบบนี้เกมในปัจจุบันก็สามารถใช้ Ray Tracing ได้หมดทุกเกมเลยสิ ?
ก็นับว่าเป็นคำถามที่หลายคนต่างสงสัยว่าทำไม Ray Tracing ถึงมีผล ใช่ครับ เกมในปัจจุบัน สามารถเปิด Ray Tracing ได้แต่ใช่ว่ากับทุกเกมเพราะบางเกมในช่วงก่อนหน้านี้ตัวเกมเองก็ไม่สามารถเปิด RTX หรือ Ray Tracing ได้ด้วยตัวเกมของมันเอง แต่เกมในสมัยนี้ก็ต้องพูดตามตรงว่าล้วนประกาศออกมาว่าสามารถใช้ เทคโนโลยีจาก RTX ได้ล้วนเกือบหมด อย่างเช่น Call Of Duty , God of war , bloodline 2 , Cyber Punk เป็นต้น
และมาดูกันว่าความแตกต่าง NVIDIA Geforce RTX 30 Series ในแต่ละตัว แตกต่างยังไง เพราะปัจจุบันการ์ดจอเล่นเกม NVIDIA
วางจัดจำหน่ายออกไปถึง 5 รุ่นใหญ่ๆ ดังนี้ จะมี RTX 3060 , 3060Ti , 3070 , 3080 , 3090 ดังนี้
1.) 3060 :
เป็นการ์ดจอเล่นเกมในช่วงรุ่น Entry แต่ศักยภาพถือว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมันคุ้มค่ามากๆ เมื่อเปิดใช้งาน Ray Tracing และราคาก็เป็นตัวที่ถูกสุดใน Series 30 จะเหมาะสมกับผู้ใช้งาน คุณภาพจอที่อยู่ในระดับ Full HD หรือ 1080p นั่นเอง
2.) 3060Ti :
รุ่นอัพเกรดจากตัว 3060 มาพร้อมกับ Ram GDDDR6 8 GB และแน่นอนว่าราคาสูงขึ้นไปอีก แต่คุณภาพในสินค้าและราคามัน Balanceกันอย่างเห็นได้ชัดเพราะตัวนี้ สำหรับเกมเมอร์ที่เน้น Performance เกมที่ภาพสวยจัดๆ ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ และสามารถ ขับภาพได้ถึงระดับ QHD หรือ 2K
3.) 3070 :
4.) 3080 :
มาถึงตัวที่4ของ ซีรีย์นี้ การ์ดจอเล่นเกมระดับ High End ที่ความสามารถทุกด้านที่ผ่านๆมาถูกพัฒนายกระดับให้สูงจนเป็นการ์ดเล่นเกมที่ในช่วงถึงไม่มีใครมาเทียบเลยและยังสามารถรีดประสิทธิภาพออกมาจนสุดและสามารถทำให้ความละเอียดภาพก้าวไปถึงระดับ 4K ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นตัวที่รองรับ ความต้องการสเปคเกมในอนาคตได้อีกในหลายๆเกมที่กำลังจะมาในไม่ใช้ก็เร็ว
5.) 3090 :
และสุดท้ายของ Series 30 ต้องบอกตามตามตรงว่าราคาอาจจะไม่คุ้มทุนสำหรับใครเท่าไหร่ก็ตามที่เป็นสาย เกมเมอร์ แต่ถ้านับ Workstation แล้วล่ะก็ตัวนี้จะตอบโจทย์ไปทางนั้นมากกว่า
และเราสงสัยกันไหมว่าทำไมราคาการ์ดจอเล่นเกมถึงแพงกันขนาดนี้ แน่นอนครับเพราะตัวการ์ดจอเล่นเกมเองภายในนั้นมีชิปการทำงานของมันอยู่นั่นเองถ้าใครเคยประกอบชุดน้ำเปิดและต้องป้องกันการแตกของหม้อน้ำหรือท่อน้ำภายในเครื่องก็ต้องหา Block น้ำมาใส่เพื่อป้องกันน้ำที่จะมาโดนและพังเอาแบบดื้อๆ แน่นอนว่าตัวชิปนั่นแหละคือตัวแปลสำคัญและเป็นส่วนที่ราคาแพงสุดในตัวการ์ดจอเล่นเกม
สุดท้ายนี้แล้ว NVIDIA เป็นตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่ในหมู่ไม่ว่าจะแต่งคอมหรือเกมเมอร์แล้วนั้นใช้ NVIDIA กันเกือบหมด เพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในตัว อย่าง RTX หรือ Ray Tracing และ DLSS ที่เป็นอีกส่วนภายในที่ทำให้ สามารถรองรับ เกม ระดับ AAA ได้อย่างดีเยี่ยม
* สาระเสริม *
Ti : มากจาก Titanium เป็นการ์ดจอเล่นเกมที่มี CUDA Core มากกว่าตัวรุ่นธรรมดา อาจเรียกได้ว่าเป็นตัว Top ของรุ่นเลยก็ได้
Super : มีประสิทธิภาพคล้ายกับ Ti คือเพิ่ม CUDA Core เข้ามา แต่จะไม่ถึงกับการ์ดจอเล่นเกมรุ่นที่มี Ti ต่อท้าย
OC : มาจากคำว่า Overclock เป็นการ์ดจอเล่นเกมรุ่นที่ปลดล็อคเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีกระดับ
สุดท้ายนี้ทางเรา PKJ GROUP INNOVATION IT ก็ได้นำเสนอสาระของการ์ดจอเล่นเกมในยุคปัจจุบันก่อนผันเปลี่ยนช่วง Series 40 หรือเปลี่ยนไปแล้ว
ติดต่อ
Tel : 094-251-9179 , 064-252-3542
Line : @pkjgroup, funky-nk, pkjgroup_shop
Facebook : PKJ GROUP INNOVATION